แชร์

ออกแบบออฟฟิศให้ทันสมัย รองรับการทำงานยุคใหม่

อัพเดทล่าสุด: 18 ต.ค. 2025
70 ผู้เข้าชม

แนวทางการออกแบบและตกแต่งภายในออฟฟิศให้ทันสมัย

ทำไม "ตกแต่งภายในออฟฟิศ" จึงสำคัญในยุคใหม่

ปัจจุบันออฟฟิศไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับทำงานอีกต่อไป แต่ยังเป็น ภาพลักษณ์ขององค์กร และ สภาพแวดล้อมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การเลือกแนวทาง ตกแต่งภายในออฟฟิศ ให้ทันสมัยจึงเป็นสิ่งที่หลายบริษัทให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเพื่อ สร้างความสะดวกสบายแก่พนักงาน หรือ สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าและคู่ค้า

 

แนวโน้มการออกแบบออฟฟิศในยุคใหม่

  1. Flexible Office ออฟฟิศยืดหยุ่น
    ในยุคที่รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการทำงานแบบ Hybrid Work ที่พนักงานบางส่วนเข้ามาทำงานในออฟฟิศสลับกับการทำงานที่บ้าน พื้นที่ออฟฟิศจึงต้องถูกออกแบบให้ ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
    • โต๊ะทำงานสามารถเคลื่อนย้ายหรือปรับเปลี่ยนรูปแบบได้
    • มีโซน Co-working สำหรับทำงานเป็นทีม และโซน Private สำหรับงานที่ต้องการสมาธิ
    • ใช้ระบบ Modular Furniture ที่ถอดปรับและจัดใหม่ได้ง่าย

    ข้อดี: ลดข้อจำกัดเรื่องจำนวนคนและลักษณะงาน ทำให้องค์กรประหยัดพื้นที่และค่าใช้จ่ายในระยะยาว

  2. Well-being Design การออกแบบเพื่อสุขภาพและความสบาย
    แนวคิดนี้ให้ความสำคัญกับ สุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน เพราะเชื่อว่าการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยเพิ่ม Productivity และลดปัญหาสุขภาพจากการทำงานระยะยาว
    • ใช้ แสงธรรมชาติ ให้มากที่สุดเพื่อลดความเครียดและความล้า
    • จัดพื้นที่สีเขียว เช่น มุมปลูกต้นไม้ ห้องพักผ่อนกลางวัน
    • เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบตามหลัก Ergonomic เพื่อลดอาการปวดหลัง ปวดคอ
    • เพิ่มพื้นที่ให้พนักงานได้เคลื่อนไหว เช่น โซนยืดเส้นหรือมุมออกกำลังกายเบา ๆ

    ผลลัพธ์: พนักงานมีสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพงานและความผูกพันต่อองค์กร

  3. Smart Office ออฟฟิศอัจฉริยะ
    เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน การตกแต่งภายในออฟฟิศจึงต้องผสมผสาน ระบบอัจฉริยะ (Smart System) เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพ
    • ระบบ IoT (Internet of Things) ควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ
    • การใช้ Sensor และ Automation เพื่อลดการใช้พลังงาน เช่น ไฟดับเมื่อไม่มีคนในห้อง
    • อุปกรณ์ Smart Meeting เช่น จอ Interactive, ระบบ Video Conference, Wireless Presentation
    • ระบบ Access Control และ Security ที่ปลอดภัยและทันสมัย

    ข้อดี: ช่วยประหยัดเวลา เพิ่มความปลอดภัย และสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย

  4. Sustainability การออกแบบเพื่อความยั่งยืน

    ในยุคที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญกับ ESG และสิ่งแวดล้อม การออกแบบและตกแต่งภายในออฟฟิศจึงมุ่งเน้น การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อโลก และออกแบบให้ลดการใช้พลังงาน

    • เลือกวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ กระจกรีไซเคิล
    • การใช้ไฟ LED และระบบประหยัดพลังงาน
    • ออกแบบระบบระบายอากาศที่ช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศ
    • จัดพื้นที่ให้มี Green Area หรือพื้นที่สีเขียวในออฟฟิศ

    ผลลัพธ์: นอกจากจะช่วยโลกแล้ว ยังทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสายตาลูกค้า นักลงทุน และคู่ค้า

     

องค์ประกอบสำคัญของการตกแต่งภายในออฟฟิศที่ทันสมัย

  1. การจัดแสง Lighting Design การจัดแสงถือเป็นหัวใจสำคัญของการ ตกแต่งภายในออฟฟิศ ที่ทันสมัย เพราะแสงส่งผลต่อทั้งประสิทธิภาพการทำงานและสุขภาพสายตา
    • แสงธรรมชาติ (Natural Light): ช่วยลดความล้า สร้างความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย และยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า
    • ไฟส่องสว่างที่เหมาะสม: ไฟสีขาวนวลหรือ Daylight จะช่วยให้สมองตื่นตัว ส่วนไฟโทนเหลืองสามารถใช้ในมุมพักผ่อนเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
    • Lighting Design แบบ Layer: ผสมผสานแสงหลัก (General Lighting) แสงเสริม (Task Lighting) และแสงตกแต่ง (Accent Lighting) เพื่อสร้างมิติในออฟฟิศ

  2. การเลือกสี Color Psychology
    จิตวิทยาของสีมีผลต่ออารมณ์และบรรยากาศการทำงานโดยตรง
    • โทนอบอุ่น (Warm Tone): เช่น น้ำตาลอ่อน ครีม หรือไม้ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นมิตร เหมาะกับโซนพักผ่อน
    • โทนสดใส (Vibrant Tone): เช่น เหลือง ส้ม เขียวอ่อน ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพลังงานในการทำงาน
    • โทนโมเดิร์น (Modern Neutral): เช่น เทา ดำ ขาว ให้ภาพลักษณ์มืออาชีพและหรูหรา
      การผสมผสานโทนสีอย่างลงตัวจึงเป็นศิลปะที่ช่วยให้ออฟฟิศทั้ง ดูทันสมัยและสื่อภาพลักษณ์องค์กร ได้ชัดเจน

  3. เฟอร์นิเจอร์ Furniture
    เฟอร์นิเจอร์ไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่ง แต่เป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพและ Productivity
    • Ergonomic Furniture: เก้าอี้และโต๊ะที่ออกแบบตามหลักสรีระ ลดอาการปวดหลัง ปวดคอ
    • เฟอร์นิเจอร์ Modular: สามารถปรับเปลี่ยนและเคลื่อนย้ายได้สะดวก ตอบโจทย์การทำงานแบบ Flexible Office
    • วัสดุคุณภาพ: ใช้วัสดุที่ทนทาน เช่น โต๊ะไม้จริง เก้าอี้หนังคุณภาพสูง เพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว

    การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ดีจึงไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานจริง

  • การใช้พื้นที่ Space Planning
    การจัดสรรพื้นที่เป็นหนึ่งในสิ่งที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของการ ออกแบบและตกแต่งภายในออฟฟิศ
    • โซนทำงาน (Working Zone): จัดโต๊ะให้มีพื้นที่ส่วนตัว แต่ยังสามารถสื่อสารกับทีมได้สะดวก
    • โซนประชุม (Meeting Zone): อาจเป็นห้องประชุมแบบปิดสำหรับงานสำคัญ และโซนประชุมเล็ก (Huddle Space) สำหรับการคุยงานด่วน
    • โซนพักผ่อน (Relax Zone): มุมกาแฟ โซฟานั่งเล่น หรือมุมสีเขียว เพื่อให้พนักงานผ่อนคลายระหว่างวัน
    • ทางเดินและการเข้าถึง: ต้องไม่แออัด และเอื้อต่อการเคลื่อนไหวอย่างสะดวก

    การวางแผนพื้นที่ที่ดีช่วยให้ออฟฟิศมี Flow ของการทำงานที่ลื่นไหล และยังช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่มีชีวิตชีวา

  • เทคโนโลยี Technology Integration เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่แยกไม่ออกจากออฟฟิศยุคใหม่ และถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยให้องค์กร ทันสมัยและแข่งขันได้
    • Smart Meeting Room: ห้องประชุมที่มีจอ Interactive, ระบบ Video Conference, และระบบควบคุมอัตโนมัติ
    • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย (Wireless): ลดความยุ่งยากของสายไฟ ทำให้พื้นที่ดูเรียบร้อย
    • ระบบความปลอดภัย (Security System): เช่น ประตูคีย์การ์ด กล้องวงจรปิด และระบบ Access Control
    • IoT Integration: ควบคุมแสง อุณหภูมิ และอุปกรณ์สำนักงานผ่านแอปพลิเคชัน
      เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ออฟฟิศไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยัง ตอบโจทย์การทำงานยุคดิจิทัล อย่างแท้จริง

 

ข้อดีของการออกแบบและตกแต่งภายในออฟฟิศที่ดี

  1. เพิ่มประสิทธิภาพและแรงบันดาลใจในการทำงาน : การมีออฟฟิศที่ถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ ทั้งแสง สี เฟอร์นิเจอร์ และการใช้พื้นที่ ช่วยให้พนักงานรู้สึกสบายและมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น ตัวอย่างเช่น โต๊ะที่จัดวางอย่างเหมาะสมกับทิศทางแสง หรือการใช้สีโทนสดใสในพื้นที่ทำงานร่วม (Co-working Space) จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งนี่คือหัวใจสำคัญของการ ตกแต่งภายในออฟฟิศ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ช่วยเพิ่ม Productivity ของทีมงานจริง ๆ

  2. ลดความเครียดและปัญหาสุขภาพจากการนั่งทำงานนาน ๆ : การนั่งทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น เก้าอี้ไม่มีพนักพิงที่ดี หรือแสงไฟไม่ถูกต้อง อาจทำให้พนักงานเกิดอาการปวดหลัง ปวดตา และความเครียดสะสมได้ แต่หากมีการออกแบบอย่างใส่ใจ เช่น การเลือกใช้เก้าอี้ตามหลัก Ergonomic หรือการจัดแสงธรรมชาติที่เพียงพอ จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ พนักงานจึงทำงานได้ยาวนานขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจนเกินไป

  3. สร้างภาพลักษณ์มืออาชีพให้องค์กร : ออฟฟิศที่ตกแต่งอย่างทันสมัยและมีเอกลักษณ์ คือ หน้าตา ของบริษัทที่ลูกค้าและคู่ค้าจะเห็นเป็นอันดับแรก หากการ ตกแต่งภายในออฟฟิศ สื่อถึงความเป็นมืออาชีพ ความใส่ใจในรายละเอียด และความคิดสร้างสรรค์ ก็ย่อมสะท้อนภาพลักษณ์เชิงบวกให้แก่องค์กร ทำให้คู่ค้ารู้สึกมั่นใจ และเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากกว่าการใช้เพียงคำพูดในการนำเสนอ

  4. รองรับการทำงานแบบ Hybrid และ Remote : ยุคนี้การทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศอีกต่อไป หลายองค์กรเลือกใช้ระบบ Hybrid หรือ Remote Work การออกแบบภายในจึงต้องตอบโจทย์ เช่น มีพื้นที่ประชุมที่เชื่อมต่อระบบ Video Conference ได้อย่างราบรื่น โต๊ะทำงานที่สามารถแชร์ใช้ได้ (Hot Desk) รวมถึงการวางโซน Co-working ที่ยืดหยุ่น สิ่งเหล่านี้ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในออฟฟิศหรือทำงานจากบ้าน

  5. ทำให้พนักงานมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร : บรรยากาศในออฟฟิศมีผลโดยตรงต่อความรู้สึกของพนักงาน หากสถานที่ทำงานดูน่าอยู่ ทันสมัย และสะท้อนวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างชัดเจน จะทำให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับบริษัทมากขึ้น การมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพักผ่อน พื้นที่แชร์ไอเดีย หรือการตกแต่งด้วยเอกลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ ล้วนช่วยสร้าง ความเป็นครอบครัว และทำให้ทีมงานรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตกแต่งภายในออฟฟิศ

Q1: ทำไมควรลงทุนในการตกแต่งภายในออฟฟิศ?
A: เพราะออฟฟิศคือหน้าตาขององค์กร ช่วยสร้างบรรยากาศทำงานที่ดี เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความน่าเชื่อถือเมื่อมีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชม

Q2: ใช้เวลานานแค่ไหนในการออกแบบและตกแต่งออฟฟิศ?
A: ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และรายละเอียด โดยทั่วไปใช้เวลา 13 เดือน รวมการออกแบบและก่อสร้าง

Q3: งบประมาณในการตกแต่งภายในออฟฟิศอยู่ที่เท่าไหร่?
A: แตกต่างกันตามสไตล์ วัสดุ และขนาดพื้นที่ โดยบริษัทที่เชี่ยวชาญจะช่วยวางแผนงบประมาณให้เหมาะสมกับลูกค้า

Q4: บริษัทเล็ก ๆ ควรตกแต่งออฟฟิศหรือไม่?
A: ควร เพราะการจัดสรรพื้นที่และบรรยากาศที่เหมาะสมช่วยให้พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสร้างความเป็นมืออาชีพให้ธุรกิจ

Q5: จำเป็นต้องใช้บริษัทมืออาชีพด้านการตกแต่งหรือไม่?
A: ควรใช้มืออาชีพ เพราะมีประสบการณ์ รู้จักวัสดุ การวางระบบ และสามารถออกแบบให้สอดคล้องกับฟังก์ชันการใช้งานจริง

 

เลือกมืออาชีพในการออกแบบออฟฟิศ

การ ตกแต่งภายในออฟฟิศ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างภาพลักษณ์องค์กร บริษัท พระนคร เดคคอเรท จำกัด มีประสบการณ์ด้าน งานออกแบบและตกแต่งภายในครบวงจร ทั้งงานออกแบบ วางระบบ และก่อสร้าง ด้วยทีมงานมืออาชีพที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม หากคุณกำลังมองหาออฟฟิศที่ ทันสมัย ใช้งานได้จริง และสะท้อนตัวตนขององค์กร บริษัทฯ พร้อมดูแลครบทุกขั้นตอน

 


สนใจปรึกษาเรื่อง ตกแต่งภายในออฟฟิศ บิ้วอินห้องนอน กับทีมงานมืออาชีพ

ติดต่อ พระนคร เดคคอเรท จำกัด ได้ทุกช่องทาง
761 ถ.พระรามที่ 2 ซอย 11 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ 10150
Email: pranakorndec@gmail.com
เบอร์โทร: 099 619 6789


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy